อยากคุยกับฝรั่งได้เข้าใจ ไม่มีแป้ก ต้องรู้ไว้
ครูพี่รู้สึกว่าการเรียนคำศัพท์ โดยเฉพาะ คำสแลง ที่แปลตรงตัวไม่ได้ ค่อนข้างมีความเพลิน เพราะเวลาที่เราไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หรือที่มาของคำเหล่านั้น เหมือนกับเราได้รู้เรื่องราวที่ตลกๆ และขำขันไปด้วย ฉะนั้น วันนี้เรามาดูเรื่องศัพท์ สแลง กันดีกว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปดูกันเลยยยยยย
คำ สแลง คืออะไร?
คำ สแลง ก็คือคำที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง แปลตรงๆแล้ว งง แน่นอน แล้วเป็นคำที่ฝรั่งส่วนใหญ่ค่อนข้างนิยมใช้กันจริง ซึ่งคำเหล่านี้มักเป็นคำที่ไม่มีสอนในตำราเรียนทั่วไปค่ะ เพราะฉะนั้น ก็ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา เพราะว่าฝรั่งใช้กันบ่อย แต่เราไม่เคยเรียน ดังนั้นทำให้เราอาจจะฟัง หรือคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจนั่นเองค่ะ ไปดูตัวอย่างคำที่ ครูพี่แอน ยกมาสอนนักเรียนทุกคนกันเลยค่ะ
Loaded ไม่ได้แปลว่า โหลด แต่แปลว่า ร่ำรวย, เต็มไปด้วยเงินทอง
ที่มา มาจากคำว่า Load แต่ในที่นี้ หมายถึงว่า โหลดเงิน โหลดทองเข้ากระเป๋าของเรานั่นเองค่ะ
ตัวอย่าง: Is your boyfriend loaded ? (ประโยคนี้ประมาณว่า แฟนแกรวยป่ะ? อารมณ์เพื่อนผู้หญิงคุยกันค่ะ แฟนแกหล่อมั้ย แฟนแกนิสัยดีมั้ยทำนองนั้นค่ะ )
I’m loaded. (ฉันรวย พูดแบบเชิดได้เลยค่ะ แทนที่จะพูดว่า I’m rich เฉยๆลองเปลี่ยนเป็นคำนี้ดูก็จะดูปัง ดูเริศ ขึ้นมาเลยล่ะค่ะ )
Pal แปลว่า เพื่อนรัก , เพื่อนยาก (เป็นคำที่ใช้เรียกเพื่อนๆนั้นเองค่ะ นักเรียนที่ได้ยินคำนี้อย่าเผลอเข้าใจผิดว่า เค้าเรียนชื่อเราผิดนะคะ )
ตัวอย่าง
What’s up, pal ? (เป็นยังไงบ้างเพื่อน , เป็นไงบ้างเพื่อนรัก)
What are you doing tonight, pal? (คืนนี้ทำไรอ่ะเพื่อน? , จะทำอะไรในคืนนี้เหรอเพื่อนรัก)
Pig คำนี้สามารถเป็นคำด่าในภาษาอังกฤษได้ด้วย แต่ ไม่ได้แปลว่า ไอ่หมู หรือ ไอ่อ้วน แบบน่ารัก น่าชังนะคะ คำนี้พอมาใช้เป็นคำสแลง คำด่าถือว่าแรงมาก (มากแบบกอไก่ล้านตัวเลยค่ะ)
Pig คำสแลง ในที่นี้ มีความหมายว่า ไอ่โสโครก ,ไอ่น่ารังเกียจ ,ไอ่สกปรก
(เป็นยังไงล่ะคะนักเรียนคำนี้ถือว่าแรงมากอย่างที่ครูพี่แอนบอกจริงไหม เพราะว่าในสังคมฝรั่งเค้ามองว่าหมูเนี่ย เป็นสัตว์ที่อยู่ในคอก วันๆได้แต่กิน แล้วก็นอน และก็อึ นอนทับอึ สกปรกอยู่ในคอก อย่างที่ครูพี่แอนบอกว่าคำด่านี้คือแรงมากนักเรียนอย่านำไปใช้กันมั่วซั่วนะคะ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำคำนี้ไปด่ากันเล่นๆ ไม่ได้เลยนะคะ)
A pain in the neck นอกจากคำนี้จะสามารถแปลตรงตัวได้ว่า แผลที่คอ แล้ว
แต่ในคำ สแลง ก็สามารถแปลได้ว่า คนที่ทำตัวน่ารำคาญ คนที่ชอบขัดคอคนอื่นไปซะทุกเรื่อง จนทำให้ผู้อื่นหงุดหงิดรำคาญใจ (เหมือนกับเวลาคนเรามีแผลที่คอก็จะต้องรู้สึกหงุดหงิดเหมือนมีอะไรมาขัดที่คอประมาณนั้นจ้า)
ตัวอย่าง
My friend is a pain in the neck but I love her. (ความหมายอาจจะไม่ได้ติดลบจนน่ารังเกียจมากเกินไป อาจจะเป็นไปในแนวทางน่ารำคาญนิดหน่อยแต่ไม่ได้เกลียดกันก็ได้)
I don’t like him. He’s a pain in the neck. (ฉันไม่ชอบเค้าเลย เค้าเป็นคนที่น่ารักคาญมาก)
His poor working is a pain in the neck. (การทำงานที่แย่ของเขาสร้างปัญหาให้ฉันมาก)
มาถึงวลีนี้ เป็นวลีที่ครูพี่แอนชื่นชอบมาก และอยากจะเสริมให้นักเรียนทุกคนได้รู้จักกัน เพราะช่วงนี้ ก็ถือว่าเป็นช่วงที่เราอยู่ใน สถานการณ์ หรือ เวลาที่ค่อนข้างจะกดดัน และไม่ดีสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องของ โควิด – 19(Covid-19) และ เศรฐกิจตอนนี้ที่ค่อนข้างจะย่ำแย่ เพราะฉนั้นค่ะ พี่แอนเลยอยากจะขอเสริมสำนวนนี้ให้นักเรียนได้รู้ กันสักนิดนึง คนที่มองโลกในแง่ดีต้องรู้ไว้ ส่วนคนที่มองโลกในแง่ร้ายต้องพยามใช้ชวลีนี้กันให้บ่อยขึ้นนะคะ ไปดูกันเลย
Look on the bright side. แปลว่า มองในทางที่ดีสิ / มองในมุมดีๆสิ (จงมองทุกอย่างในแง่ดี) (Bright แปลว่าแสงสว่าง Side แปลว่าทางหรือข้างทาง พี่แอนเชื่อว่าชีวิตของคนเรา หรือชีวิตของใครหลายๆคน คงจะไม่มีใครหรอกที่ชีวิตจะดีไปซะหมดครบทุกด้าน มองไปทางหน้าก็ดี ซ้ายก็ดี ขวาก็ดี หรือข้างหลังก็ดี คนเราก็มักจะต้องพบเจอเรื่องไม่ดีบ้างเรื่องที่แย่ๆบ้างในแต่ละช่วงเวลา แต่สุดท้ายแล้ว ครูพี่แอนก็อยากให้ทุกคนนั้น ได้โฟกัสกับด้านที่ดีๆของเราเท่านั้นค่ะ มองแต่ด้านดีที่เราได้พบเจอ)
ครูพี่แอนก็อยากจะเล่า เรื่องของตัวครูพี่แอนเอง ให้ทุกคนได้ฟังนะคะ ว่าอย่างครูพี่แอนเองเนี่ยก็เคยมีปัญหาเหมือนกัน คือครูพี่แอนเกิดมาในครอบครัวที่ ในช่วงแรก สมัยที่ยังเป็นเด็กๆครอบครัวก็ถือว่าป็นครอบครัวที่พอมีฐานะ เรียกว่าฐานะปานกลาง ก็คืออยู่กันได้แบบสบายๆ นั่นแหละค่ะ อยากทานอะไรก็ทานได้ อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ไป แต่ก็ต้องมีช่วงที่ประหยัดบ้าง ก็ไม่ได้ถึงขั้นลำบากอะไร แต่มาพลิกผันกันตอนช่วงที่ประเทศไทยของเรานั้นเกิด วิกฤตต้มยำกุ้ง ครอบครัวของครูพี่แอนพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยค่ะทุกคน ได้มีหนี้สินเกิดขึ้นมากมาย ค่อนข้างลำบากเลยช่วงนั้นทางบ้านก็ต้องพยามหาเงินมาใช้หนี้สินจนผ่านพ้นมาได้ แต่พอ ครูพี่แอนมาเปลี่ยนมุมมองใหม่ มองในทางที่ดี หรือ Look on the bright side. ครูพี่แอนก็รู้สึกว่าพอเราผ่านจุดนั้นมาได้ ผ่านความลำบากช่วงนั้นมาได้ มันทำให้เรากลายเป็นคนที่ เข้มแข็ง แข็งแกร่งขึ้น เก่งขึ้น กลายเป็นคนที่อดทน ขยัน เป็นคนที่ฝ่าฟันทุกๆอุปสรรค์ในชีวิตที่เคยเกิดขึ้น
กับครูพี่แอนมาได้ เพราะตัวเราเคยลำบากมากๆมาก่อนในสมัยนั้น ถ้าตอนนั้นครูพี่แอนไม่ได้ลำบาก ก็คงไม่เก่งไม่อดทน และ เข้มแข็งขนาดนี้ นี่ก็เป็นเรื่องเล่าประสบการณ์สมัยเด็กของ ครูพี่แอนที่นำมาเล่าสู่กันฟัง มาแชร์ให้นักเรียนได้ฟัง ถ้าใครกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่ครูพี่แอนก็ขอให้กำลังใจ อย่าพึ่งท้อแท้นะคะทุกคน จำไว้เลยนะคะว่า คนเราทุกคนไม่ได้เก่ง หรือไม่ได้มีพื้นฐานที่ดีมาตั้งแต่เกิดหรอกค่ะ แต่เราเท่านั้นค่ะ ที่จะเลือกว่าเราจะพัฒนาตัวเองต่อไปหรือจะหยุดอยู่กับที่ ไม่เก่งวันนี้ อนาคตก็พัฒนาให้เก่งขึ้นได้ถ้ารู้จักพัฒนาตัวเองทุกวัน อย่างที่บอกค่ะว่าพี่แอนจะย้ำเสมอว่าพี่แอนไม่ใช่คนเก่งพี่แอนไม่เคยอวดว่าพี่แอนเก่งแต่พี่แอนมีความพยายามยิ่งเราไม่เก่ง ยิ่งต้องพยายามมากกว่าคนอื่น และอย่าลืม Look on the bright side. มองในทางที่ ดีมองในมุมดีๆสิ (จงมองทุกอย่างในแง่ดี) สู้และฝ่าฟันอุปสรรค์ไปให้ได้นะคะ
สุดท้ายนี้ก็อยากให้ทุกคนได้เก็บสำนวนนี้เอาไว้ในใจ และ นำไปใช้ในชีวิตของทุกคน รวมไปถึง คำสแลงที่ได้เรียนกันในวันนี้ ก็อย่าลืมนำไปฝึกฝน นำไปลองใช้กันดูนะคะ ถ้าชื่นชอบก็ฝาก แชร์ ให้ครูพี่แอนด้วยนะคะ หนึ่งแชร์ของนักเรียนทุกคนก็เป็นกำลังใจให้ครูพี่แอนได้อย่างมากมายเลยค่ะ ถ้าอยากจะติดตามสาระ ความรู้ ความบันเทิงที่ครูพี่แอนจะนำมาฝากนักเรียนที่น่ารักของครูพี่แอนได้แบบจุใจ ก็อย่าลืมกดสมัครสมาชิกแบบรายเดือนกับ ครูพี่แอนกันนะคะ >.<