วลีง่ายๆพูดติดตัวไว้ให้ดูเป็นมืออาชีพ
สวัสดีค่ะ นักเรียนที่น่ารักของครูพี่แอน วันนี้ครูพี่แอน อยากจะมาขออนุญาตสอนภาษาอังกฤษในหัวข้อ วลีง่ายๆที่สามารถนำไปสื่อสาร และไปใช้ได้เลยในชีวิตประจำวันของเรากันค่ะ ที่สำคัญ เวลาเราทำงาน หรือว่า อยู่บางสถานการณ์ที่ต้องแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ต้องมีการสร้างบุคลิกภาพที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง ครูพี่แอนบอกเลยนะคะว่าการใช้ภาษา ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น วันนี้เรามาเรียนเกี่ยวกับ ประโยค วลี สั้นๆง่ายๆ ที่ถ้าหากนักเรียนพูดแล้วจะทำให้นักเรียนดูน่าเชื่อถือ ดูมีบุคลิกภาพที่ดีกันนะคะ เอาล่ะค่ะ ประโยคแรกเลยที่เราจะเรียนกันวันนี้ก็คือ คำว่า
Do you mind?
ซึ่งประโยคนี้เราสามารถใช้ได้ในกรณีที่ เราเจอคนที่ไร้มารยาทค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่พูดจาเสียงดัง เคี้ยวอาหารเสียงดัง เดินกระแทกเท้าเสียงดัง พิมพ์เสียงดัง คุยโทรศัพท์เสียงดัง เหล่านี้คือถือว่าค่อนข้างไร้มารยาทเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ จริงมั้ยล่ะคะนักเรียน แทนที่เราจะเข้าไปเตือนเขาตรงๆว่า “เห้ย หุบปากสิวะ Shut up” “Stop walking หยุดเดินสิวะ” “น่ารำคาญ You are so annoying “ แบบนี้มันก็จากจะทำให้เราดูเป็น นักเลงเกินไปนิดนึงถูกมั้ยคะ ในบางครั้งกับคนที่เราไม่ได้สนิทสนมกัน เราก็ไม่ควรจะเข้าไปเตือนเค้า เช่น หุบปากหน่อยได้มั้ยคะ คุณค่ะคุณช่วยหุบปากหน่อยได้มั้ยคะ เสียงดังมากน่ารำคาญมากเลยค่ะ ก็ไม่สมควรจริงมั้ยคะ โดยเฉพาะเวลาที่ เราอยู่ในองค์กร หรือ อยู่ในสถานที่ทำงาน เราต้องการที่จะสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับตัวเราเอง ต้องการสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับตัวเอง ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้คนอื่นนับหน้าถือตาเรา ถ้าหากว่าเราใช้ภาษาที่หยาบคายแน่นอนค่ะว่า คงไม่มีใครมาเคารพเราหรอกค่ะ มีแต่คนจะเอาเราไปด่า นินทาลับหลัง เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ เวลาเราเจอคนไร้มารยาท
ให้พูดประโยคสั้นๆนี้ไปเลยค่ะว่า
Do you mind? สั้นๆเลยค่ะ หรือ Excuse me do you mind? จะแปลได้ว่า ขอโทษนะคะ ช่วยมีมารยาทนิดนึงได้มั้ยคะ (ประโยคนี้ใช้ได้ทุกสถานการณ์)
ประโยคนี้มันคือประโยคที่แบบ ไม่หยาบคายเลยนะคะนักเรียน แต่มันเจ็บมากอ่ะ นักเรียนเคยโดนผู้ดีด่ากันบ้างมั้ยคะ นักเรียนคงจะ งง ว่าเอ้าครูพี่แอนอยู่ดีใครจะอยากมาโดนด่าล่ะคะ ไม่ใช่นะคะนักเรียน >_< ครูพี่แอนกำลังจะยกตัวอย่างว่า ผู้ดีเนี่ยจะด่าเจ็บกว่าคนที่พูดจาหยาบคายอีกนะ นักเรียนว่าไหมล่ะคะ เวลาแบบนางเอกเขาด่านางร้ายคือด่าแบบไม่หยาบคายแต่ว่าเจ็บเลยนะ อึ้ม แบบฟังแล้วจิ๊ดนางร้ายอาจจะด่าโวยวายอยู่หลายประโยค นางเอกเดินมาสวยๆพูดคำเดียวก็ยืนหนึ่งมากเลยจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นนำไปใช้เลยนะคะ
Ex. ถ้านักเรียนอยู่บนรถประจำทาง และมีคนคุยโทรศัพท์เสียงดังแล้วเราอยากจะตักเตือนเค้า แทนที่จะพูดว่า Shut up ลองเปลี่ยนเป็น Excuse me, Do you mind? ดูนะคะ
May I ask?
คำนี้เป็น วลี ที่ครูพี่แอนต้องบอกตรงๆเลยนะคะนักเรียน ว่าครูพี่แอนเองก็ใช้บ่อยมาก ยิ่งเวลาที่ครูพี่แอนไปออกงานสังคม หรือไปเจอสังคมใหม่ๆ เพื่อนชาวต่างชาติใหม่ๆที่พี่แอนไม่ได้สนิทกับเค้าสักเท่าไหร่ แล้วต้องวางตัวให้ดูมีมารยาท ดูมีการศึกษานะคะ
เวลาที่เราต้องการถามอะไรอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าคำถามนั้นค่อนข้างจะเป็นคำถามที่ส่วนตัว ครูพี่แอนอยากจะให้นักเรียนใช้ May I ask? ขึ้นต้นเป็นประโยคคำถามนะคะ
Ex.สมมุติว่าเราต้องการถามอะไรที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว แต่ก็ต้องการดูเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพอยู่ (แต่อยากถามจริงๆ คือเอาง่ายๆเลยคืออยากจะรู้มากๆนั้นแหละค่ะเรื่องของคนอื่น 5555) เราก็อาจจะเปิดโดยการถามคำถามไปก่อน เช่น
So do you have a boyfriend? Umm, may I ask?
คุณมีแฟนหรือยังครับ ผมถามได้รึเปล่า หรือ ขออนุญาตถามได้ไหมครับ ประมาณนี้ค่ะซึ่งประโยคนี้สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์เช่นถ้าอยากถามอายุคนในที่ทำงาน หรือหัวหน้าของเราแบบมีมารยาท (คือแบบอยากรู้มากจนต้องถามจริงๆ แต่ก็อยากจะถามให้ดูสุภาพอยู่)
ก็สามารถใช้ประโยคนี้ได้เลยค่ะ
So how old are you, may I ask ? หมายถึง เอ่อคุณอายุเท่าไหร่เหรอคะ ขออนุญาตถามได้มั้ย ? (ซึ่งเรื่องนี้ครูพี่แอนก็มีสอนอยู่ด้วยนะคะ ในคอร์ส Polite English นะคะแอบขายของนิดนึง อิอิไปดูวลีต่อไปเลยค่ะ)
Please don’t mind me saying but..
ประโยคนี้ค่อนข้างจะดีมากๆเลยค่ะ Please don’t mind me saying but.. หมายถึง อย่าหาว่าดิฉันอย่างงั้นอย่างนี้เลยนะคะ ซึ่งประโยคนี้ก็สามารถใช้เกริ่นก่อน ที่จะพูดชม ได้เช่นกันนะคะ เช่น เวลาเราจะชมอะไรใคร แล้วเรารู้สึกว่า ไม่อยากชมจนเค้ารู้สึกเข้าใจผิด แบบ เห้ยอะไร อยู่ๆมาชมฉัน เราก็สามารถเกริ่นประโยคนี้ Please don’t mind me saying but.. ก่อนได้เช่นกัน (ประมาณว่า อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ แต่ดวงตาของคุณน่ะ สวยมากเลยค่ะ)
เหมือนเวลาที่เราจะไปชมคนที่ไม่สนิท แต่เรากลัวเค้าจะเข้าใจผิด คิดว่าเราไปชอบเค้า ไปหลงไหลเค้า แต่เจตนาจริงๆของเราอาจจะไม่ใช่แบบนั้น เราอาจจะแค่อยากไปชมเค้าเฉยๆ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะชม ฝรั่งเค้าก็มักจะมีพิธีรีตรองก่อนนิดนึงว่าเวลาก่อนที่เค้าจะพูดชม ก็จะพูดก่อนว่า Please don’t mind me saying but , I love your eyes.
หมายถึง อย่าว่าอะไรกันเลยนะคะ แต่ว่าฉันชอบดวงตาของคุณมากเลยค่ะ
ก่อนจะลากันไป ครูพี่แอนก็อยากจะฝาก ข้อคิดเล็กๆน้อยๆ ให้กับนักเรียนของครูพี่แอน ได้อ่านกันนะคะว่า ถ้าเราอยากจะก้าวหน้า ต้องปีนป่าย ต้องทะเยอทะยานค่ะ ชีวิตของเรานั้นถึงจะดีขึ้นได้จริงๆ ซึ่งสิ่งที่ครูพี่แอนพูดมา ก็ล้วนแต่สอดคล้องกับ บทเรียนในวันนี้ทั้งนั้นค่ะ เพราะการใช้ภาษานั้น ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้คนรอบข้างของเรานั้น ชื่นชอบ หรือ มองเราแบบไหน ถ้าเราอยากจะวางตัวดี คำพูดที่ดีก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามกันนะคะ ต้องรู้จักฉลาดในการลงทุนนะคะเชื่อครูพี่แอน
ทริค ของครูพี่แอน เวลาที่ครูพี่แอนมีเงินเก็บนะคะ สิ่งที่ครูพี่แอนจะทำคือการนำไปลงทุนต่อ เพื่อต่อยอดให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น และ การนำเงินเก็บมาลงทุนกับตัวเราเอง เช่นการนำเงินเหล่านั้นมาต่อยอดความรู้ พัฒนาความรู้ ร่างกาย ศักยภาพ สุขภาพ
เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก สุดท้ายแล้วการที่จะทำงานให้มีประสิทธิภาพ ก็ล้วนต้องอาศัย สมอง ร่างกาย และ สุขภาพของเรา ฉะนั้น การลงทุนกับตัวเองครูพี่แอนคิดว่าคุ้มที่สุดแล้วค่ะ ส่วนเรื่องของฟุ่มเฟือยสำหรับพี่แอน จะไว้ที่หลังเลย สำหรับครูพี่แอนจะเน้นการลงทุนความรู้ให้เราดูแพงขึ้นค่ะ เวลาครูพี่แอนเจออะไรที่น่าสนใจและอยากรู้ ครูพี่แอนก็จะเรียนทันที เพราะเมื่อเรามีความรู้มาก เราก็จะหาเงินได้มากขึ้น I Phone ยังต้องอัพเดท IOS แล้ว I my self จะไม่พัฒนา อัพเกรด ตัวเองได้อย่างไรคะ จริงมั้ยนักเรียน
สุดท้ายนี้ถ้าชื่นชอบบทความนี้ของครูพี่แอน ก็ฝากกดแชร์บอกต่อให้ครูพี่แอนด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจมาเขียนเล่าเรื่องราว และหาความรู้มาสอนนักเรียนได้อีกค่ะ และถ้าอยากจะสมัครคอร์สเรียนกับครูพี่แอน ก็สามารถทักมาสอบถามได้ที่ เพจ Perfect English กับครูพี่แอน ได้เลยนะคะ หรือถ้าอยากจะติดตามอ่านบทความดีๆ แบบไม่มีกั๊ก ไม่อั้น สามารถสมัครสมาชิกรายเดือนกับครูพี่แอนได้เลยค่ะ