รวมศัพท์ที่แปลตรงตัวไม่ได้ อัพเดตใหม่ ไม่เคยสอนมาก่อน
วันนี้มีคำศัพท์ใหม่มาอัพเดตที่ครูพี่แอนไม่เคยสอนที่ไหนมาก่อน ใครที่รู้ตัวว่าทุกวันนี้ ฉันดูหนังใน Netflix ฉันฟังไม่ออกเลยว่า พระเอกนางเอกเขาพูดอะไรกัน หรือว่าฉันคุยกับฝรั่งก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเขาพูดอะไร พูดภาษาอังกฤษแต่ละที นึกคำไม่ค่อยออก ไม่มีคำศัพท์ในหัวเลย หรือพูดภาษาอังกฤษออกมาแล้วเหมือนหุ่นยนต์ที่ท่องภาษาอังกฤษออกมา พูดแล้วมันดูไม่มีเสน่ห์ พี่แอนแนะนำว่าต้องฟังไลฟ์นี้ค่ะ https://fb.watch/3fgIHeJVKR/
วันนี้เราจะมาเรียนคำศัพท์ใหม่ทั้งหมด 4 คำค่ะ 4 วลี
If you must
มาดูคำแรกกันดีกว่าค่ะ คำแรกก็คือ If you must คำนี้ฝรั่งใช้บ่อยมากค่ะ เวลาพี่แอนดูหนัง พวกแบบ หนัง High class นิดๆนะคะ หรือเป็นหนังพวกจักรๆวงศ์ๆ แบบฝรั่งหน่อยอ่ะค่ะ เขาจะชอบใช้คำนี้กันนะคะ If you must มันแปลว่าอะไรรู้ไหมคะ มันแปลว่า แล้วแต่คุณเลย/ตามสบายเลย/ ตามที่คุณสบายใจเลย/เอาที่คุณสบายใจเลย ซึ่งจริงๆ มันย่อมาจาก If you must do it, then do it. ถ้าคุณมีความจำเป็นต้องทำ ก็ทำเลย เพราะฉะนั้น If you must จึงแปลว่า ถ้าคุณจำเป็นต้องทำแบบนั้น ก็แล้วแต่คุณเลย ตามที่คุณสบายใจเลย เอาที่คุณสะดวกใจเลย
หรือยกตัวอย่างการใช้นะคะ อย่างเช่น ครูพี่แอนเป็นคุณครูสอนสอนอยู่ในคลาสนักเรียน แล้วก็นักเรียนมาบอกครูพี่แอนว่า คุณครูขา วันนี้หนูมีความจำเป็นที่จะต้องเลิกเร็ว หนูมีนัดค่ะ พอนักเรียนพูดแบบนัดเสร็จปุ๊บ พี่แอนก็อาจจะบอกนักเรียนว่า “Okay, if you must. อื้ม แล้วแต่นักเรียนเลย/ถ้านักเรียนมีความจำเป็นที่จะต้องเลิกเร็ว ก็แล้วแต่เลย ถ้าจะแปลให้ฟังง่ายๆ ก็แล้วแต่คุณเลย ตามสบายเลย เป็นอะไรที่ฝรั่งใช้บ่อยมากค่ะ
Stop at nothing.
Stop at nothing แปลว่า ฉันจะไม่หยุดที่อะไรทั้งสิ้น คือ อะไรก็หยุดฉันไม่ได้ Stop ก็คือหยุด at nothing ก็คือ ไม่มีอะไรเลย แบบ หยุด!! แบบไม่มีอะไรมากั้นฉันได้ ไม่มีอะไรมาหยุดฉันได้ Stop at nothing ไม่ว่าฉันจะเจออะไร ฉันก็จะไม่หยุดค่ะ เพราะฉะนั้นการพูดว่า I will stop at nothing. มันแปลว่า จะไม่มีอะไรมาหยุดฉันได้ ฉันจะไม่มีทางหยุดจากอะไรเด็ดขาด!! มันคืออารมณ์นี้จริงๆค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าพี่แอนจะบอกเพื่อนว่า นี่แก!! คอยดูนะ ฉันจะจีบปีเตอร์ให้ได้ ปีเตอร์หล่อมาก พี่แอนก็เลยบอกเพื่อนว่า แก!! ฉันจะจีบให้ได้เลยคนเนี้ย เสร็จฉัน!! คนนี้ของฉัน!! เพื่อนพี่แอนก็อาจจะบอกว่า แก!! แกแน่ใจหรอ แต่ว่าเขาน่ะมีผู้หญิงมาจีบเยอะน้าา เออ แล้วเขาแบบ หล่อ รวย แล้วเขาจะเลือกแกหรอ พี่แอนก็อาจจะบอกเพื่อนว่า Well, I will stop at nothing. เออ ไม่มีอะไรมาหยุดฉันได้ ฉันจะสู้ สาวๆมาจีบเขาเป็นร้อย ฉันก็จะสู้
Don’t hold back!
ทุกคนคะ Hold แปลว่าอะไรคะ Hold แปลว่า จับ Back แปลว่า ดึงกลับ เพราะฉะนั้น hold back หมายถึง ดึงกลับมา ดึงกลับมา คือการที่เราไม่เดินหน้าให้มันเต็มที่ จริงไหมคะ การที่เราพยายามยืนตัวเองอยู่อย่างเนี้ย แล้วเราจับตัวเองไว้ ดึงตัวเองไว้ให้เราอยู่ข้างหลัง แบบเอ๊ย!! ไม่เดินไปข้างหน้าสักทีนึง คืออะไรคะ คือการที่เราทำไม่เต็มที่ hold back มันแปลว่า ดึงตัวเองไว้ Hold คือ จับยึดไว้ใช่ไหม Back คือ ไปข้างหลัง hold back คือ ดึงตัวเองไปข้างหลัง เพราะฉะนั้นการดึงตัวเองไปข้างหลังคืออะไรคะ คือการที่เราไม่เต็มที่กับอะไรสักอย่างนึง กล้าๆกลัวๆ คนที่ทำอะไรกล้าๆกลัวๆ เวลาเรากลัวตัวเราจะไปข้างหลัง เพราะฉะนั้นการที่เราพูดว่า Don’t hold back! ก็คือ อย่ารั้งไว้/ทำให้เต็มที่/ทำให้สุด คือถ้าจะไปข้างหน้าก็ไปให้มันสุด อย่าถอยหลัง อย่า hold back อย่าดึง อย่ารั้งตัวเองไว้ ทำให้เต็มที่ค่ะ
A lot on my plate.
คำนี้ฝรั่งใช้เยอะมากเลยนะคะ แปลตรงตัวคืออะไร Plate แปลว่า จาน A lot แปลว่า เยอะ A lot on my plate. จานฉันมีเยอะ? ไม่ใช่ค่ะ จริงๆแล้ว A lot on my plate แปลว่า ฉันมีเรื่องที่ต้องทำเยอะมาก นักเรียนลองนึกดูนะ สมมติว่านักเรียนต้องนั่งกินข้าว แล้วจานใหญ่มากกก แบบอาหารเยอะมากกก มันไม่ได้มีความสุขนะ มันเหนื่อยนะเว้ย!! การที่เราต้องบังคับตัวเองกินอาหารจานใหญ่ๆ ฝืนกินอะไรเยอะๆ ทั้งๆที่อิ่มแล้ว นักเรียนเหนื่อยหรือนักเรียนมีความสุขคะ? ทรมานป่ะ ไม่ชอบป่ะ รู้สึกว่า เออ!! ภาระว่ะ ทำไมต้องมากินเยอะอะไรขนาดนี้ด้วยอ่ะ ไม่ไหว ใช่!! เพราะฉะนั้น A lot on my plate ก็คือเหมือนมีภาระที่จะต้องดูแลเยอะมาก มีเรื่องที่จะต้องเทคแคร์เยอะมาก กลายเป็นภาระไปซะงั้น ถูกต้องไหมคะ การที่เราต้องกินอะไรเยอะๆ ทั้งๆที่เรารู้สึกอิ่มแล้ว เราก็ยังต้องกินเพราะว่าจานมันใหญ่มาก มีอาหารอยู่บนจานเราเยอะมาก มันคือภาระ คือเราต้องหมกมุ่น ต้องยุ่งอยู่กับการกิน ในสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราอิ่มแล้ว ดังนั้น ถ้าเราพูดว่า I have a lot on my plate. มันแปลว่า ฉันเหนื่อย ฉันมีเรื่องต้องทำเยอะ
นักเรียนเก่งมากค่ะ ที่สละเวลามาเรียนไลฟ์สดกับครูพี่แอนในวันนี้ แล้วนักเรียนรู้สึกไหมคะว่าการเรียนวลีเหล่านี้เนี่ย เฮ้ย!! มันสนุกนะ มันไม่ใช่การท่องศัพท์ยากๆ ที่เราท่องกันเมื่อสมัยไปสอบ GAT ไปสอบ O-NET ไปสอบ TOEFL ไปสอบ IELTS ไปสอบ CU-TEP ถูกต้องไหม ใช่ไหมคะ? มันไม่ใช่การท่องศัพท์แบบยากๆแบบนั้น แต่มันคือการเรียนศัพท์ใกล้ตัว และเราจะรู้สึกว่า เออ มันเป็นศัพท์ง่ายๆ ที่มันแปลตรงตัวไม่ได้จริงๆ แล้วพี่แอนจะบอกว่า นักเรียน คำศัพท์เหล่านี้ ฝรั่งใช้ โคตร!! บ่อย!! ยืนยัน นั่งยัน นอนยัง นักเรียนไปดู Netflix นักเรียนจะเจอวลีที่พี่แอนสอนเหล่านี้ เยอะมาก