สวัสดีค่ะ วันนี้ครูพี่แอนจะมาว่าด้วยเรื่อง การใช้ Passive voice ที่ฝรั่งนิยมใช้กัน แต่คนไทยมักจะงง มาฝากกันค่ะเนื่องจากว่าในรูป ประโยค ของการสื่อสารนั้น ในแต่ละภาษาก็จะมีความแตกต่างไม่เหมือนกัน ไปตามแต่ละหลังการใช้ภาษา
ครูพี่แอน ขออนุญาตยกตัวอย่างให้นักเรียนได้อ่านกันนะคะ อย่างเช่นภาษาไทยของเรา ถ้าหากเราต้องการที่จะพูดว่า ฉันนำรถไปล้าง หรือ ฉันล้างรถเอง โดยส่วนใหญ่แล้ว การใช้ของคนไทยจะมีความคล้ายคลึงกันมากเลย ต่อให้เป็นแบบคุณทำเอง หรือคุณนำมันไปทำ
ตัวอย่างเช่น
แกฉันไปตัดผมมา กับ แกฉันตัดผมตัวเอง หรืแกฉันทำเล็บมา กับ แกฉันไปทำเล็บมา
จะมีแพทเทิร์นการใช่ ประโยค ที่ค่อนข้างจะเหมือนกันเลย คือ Subject + Verb หรือในภาษาไทยก็คือ ประธาน + กริยา เพราะฉะนั้น การใช้Passive voice ในคนไทยหรือภาษาไทยจะไม่ค่อยซีเรียสเรื่องนี้กันสักเท่าไหร่ แต่ครูพี่แอนอยากจะบอกไว้เลยว่า ในภาษาอังกฤษนั้น ฝรั่งค่อนข้างจะซีเรียสกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราลองไปดูวิธีการใช้กันเลยค่ะ
ถ้าต้องการบอกว่า ฉันเอา…….ไปทำ….….. ต่อไปนี้อยากให้นักเรียนจำไว้ว่าถ้าอยากจะพูดว่าฉันเอา….ไปทำ…. โดยที่นักเรียนไม่ได้ทำสิ่งนั้นด้วยตนเอง ย้ำว่าไม่ได้เป็นการทำด้วยตนเอง แต่เป็นการนำไปให้คนอื่นทำ ต่อจากนี้การใช้แพทเทิร์นภาษาอังกฤษต้องเป็น ประโยค แบบนี้ค่ะ คือ Subject + got + Something + V3 = ฉันเอาอะไรไปทำ….
ยกตัวอย่าง ประโยค เช่น
I got my nails done. แปลว่า ฉันเอาเล็บไปทำ (เช่นทาสี ตัดหนัง)
เราจำใช้แพทเทิร์นนี้ เพราะว่าเราไม่ได้ทำด้วยตนเอง แต่ถ้าหากว่าเราจะบอกว่าเราทำเองต้องใช้
I do my nails. แปลว่า ฉันทำเล็บเอง / ฉันทำเล็บด้วยตัวเอง
เพราะฉะนั้นจำ และ ย้ำ ไว้เลยค่ะนักเรียน ภาษาอังกฤษสำคัญมากเวลาที่ เราเอาอะไรไปให้คนอื่นทำ กับ เราทำเองนั้น ประโยค จะใช้ไม่เหมือนกัน
มาดูตัวอย่าง ประโยค กันอีกสักหน่อยนะคะ
ถ้าครูพี่แอนพูดว่า I got my car washed. แปลว่า ฉันเอารถไปล้าง
แต่ถ้าครูพี่แอนพูดว่า I washed my car. ประโยค นี้จะแปลว่า ฉันล้างรถเอง
I got my new hair cut. แปลว่า ฉันตัดผมมาใหม่
I cut my hair. แปลว่า ฉันตัดผมเอง
I got my phone fixed. แปลว่า ฉันนำโทรศัพท์ไปซ่อม แต่ถ้าเราเรียง ประโยค ผิดเป็น
I fixed my phone. ประโยค นี้จะแปลว่า ฉันซ่อมโทรทัพท์เอง
เห็นไหมคะว่าการใช้Passive voice ค่อนข้างจะสำคัญ
พอเรียนกันมาถึงตรงนี้แล้ว ครูพี่แอนอยากจะบอกความรู้สึกสักนิดนึงค่ะ ว่าครูพี่แอน ต้องชื่นชมเลย นักเรียนของครูพี่แอนเก่งมากๆ ครูพี่แอนเชื่ออย่างยิ่งว่า เรียนมาจนถึงตรงนี้นักเรียนต้องพอจะเข้าใจกันแล้วใช้ไหมละว่า การใช้Passive voice ใช้อย่างไร แต่ถ้าใครยัง งงอยู่ ไม่เป็ยไรค่ะ เรามาเรียนและทำความเข้าใจกันต่อ อย่าท้อค่ะ เพราะพี่แอนพูดอยูเสมอว่า คนที่น่ากลัว ไม่ใช่คนเก่ง แต่คือคนขัยน ที่จะเรียนรู้ และ ไม่หยุดพัฒนาตนเอง ไปดูตัวอย่าง ประโยค กันต่อเลยดีกว่าค่ะ
ถ้าครูพี่แอนต้องการที่จะพูดว่า ฉันล้างจานด้วยตัวเอง ประโยค ภาษาอังกฤษต้องพูดอย่างไร?
เฉลย I washed my dishes. แปลว่า ฉันล้างจานด้วยตัวเอง แต่ถ้านักเรียนล้างจานแค่ใบเดียวก็สามารถ ใช้ ประโยค นี้ได้ค่ะ เป็น I washed my dish.
ครูพี่แอนขอเสริมให้นิดนึงนะคะ เพราะว่าอาจจะมีนักเรียนสงสัยว่า คำว่า dish กับ คำว่า plate ต่างกันอย่างไร ?
ถ้าหากว่านักเรียนต้องการจะสื่อว่านี่เป็นจานที่นักเรียนสามารถจับต้องได้เลย เราสามารถใช้ คำว่า dish หรือ plate ก็ได้ค่ะ dish คำนี้ก็สามารถหมายถึง อาหารที่วางอยู่บนจาน ได้เช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างประโยค เช่น ถ้าครูพี่แอนถามว่า How’s your dish? ประโยค นี้จะหมายถึงว่า อาหารของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ? อย่าเข้าใจผิดนะคะนักเรียน หรือ This menu is my favourite dish. แปลว่า อาหารชนิดนี้เป็นเมนูโปรดของฉัน.
สรุปแบบง่ายๆ
คำว่า dish หมายถึง จานชามชนิดใดก็ได้ สำหรับการใส่อาหาร เป็นคำกลางๆ
แต่ถ้าเราใช้คำว่า dishes หมายถึง ถ้วย จาน ชาม ช้อน ส้อม มีด แก้วน้ำ และอื่นๆ ที่ใช้สำหรับรับประทานอาหาร ก็คือเป็นคำรวมทั้งหมดนั้นเองค่ะ
ส่วน คำว่า plate จะเป็นจานที่เอาไว้ใส่อาหารที่ไม่มีน้ำ เป็นจานแบนๆ ขอบไม่สูง เช่น จานข้าว จานแบนไว้ใส่อาหารแห้งนั้นเองค่ะ
.
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับบทเรียนในเรื่อง การใช้Passive voice ที่ครูพี่แอนได้นำมาสอนกันในวันนี้ครูพี่แอนต้องบอกเลยนะคะว่า เรื่องนี้บางคนอาจจะใช้เวลาเรียนค่อนข้างนานพอสมควร แต่วันนี้ครูพี่แอนได้ทำสรุปมาให้แล้วค่ะ แบบเข้าใจง่ายมากๆ มีทั้งตัวอย่าง ประโยค พร้อมความหมายที่ครูพี่แอนได้สอนไปแล้ว หวังว่านักเรียนจะชื่นชอบกันนะคะ ครูพี่แอนก็อยากจะทิ้งท้ายกับนักเรียนทุกคนว่า การที่เราเรียนรู้ และมีพื้นฐานการใช้ ประโยค ที่ดีจะสามรถนำไปต่อยอด ในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการทำงานได้อย่างมีประสิธิภาพค่ะ เพราะการสื่อสารถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าหากว่านักเรียนพอจะมีพื้นฐานและอย่าจะต่อยอดภาษาอังกฤษ ครูพี่แอนก็ขอแนะนำ เป็น คอร์ส English for success. ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน ของครูพี่แอนได้เลยค่ะเพราะคอร์สนี้จะทำให้เราใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นมืออาชีพ และยังสามารถนำไปต่อยอดกับการทำงานได้อีกด้วย หรือถ้าหากนักเรียนยังไม่มั่นใจหรือพื้นฐานไม่ดีก็สามารถลงเรียนในคอร์ส Perfect English ได้เช่นกันค่ะ สนใจสอบถามข้อมูลหรือสมัครคอร์สคลิกได้เลย!!!! ถ้าชื่นชอบบทความแบบนี้ก็อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์เพิ่อเป็นกำลังใจให้กับให้ครูพี่แอนและที่มงานทุกคนด้วยนะคะ